วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

My Journey in Japan

                 

        My Journey in Japan    







สวัสดีค่า! เราชื่อมิ้ม เรียนอยู่ม.5 สายภาษา-ฝรั่งเศสค่ะ วันนี้เราก็จะมาเขียนblog เกี่ยวกับทริปที่เราไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับครอบครัวเมื่อตอนปีใหม่นะคะ ซึ่งในทริปนั้น เราไปแบบไปเอง ไปประมาณ7วัน โดยไปเที่ยว3เมือง คือนาโกย่า ทาคายาม่า แล้วก็คานาซาว่าค่ะ เราไปช่วงที่ญี่ปุ่นอากาศหนาวค่ะ อุณหภูมิต่ำกว่า10องศาทุกวัน 10องศานี่คืออุ่นแล้วค่ะ55555 เจออุณหภูมิต่ำสุดคือ-9นี่คือหนาวมากๆๆๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องเช็คอุณหภูมิก่อนไป แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะกับอากาศช่วงนั้นค่า งั้นเราไปดูรายละเอียดของทริปนี้กันเลยย
เราบินไปญี่ปุ่นกับCathay Pacific ซึ่งเราต้องไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง แล้วถึงจะต่อไปลงที่นาโกย่า
ภาพข้างบนนี้ก็คือสนามบินฮ่องกงค่า ใหญ่มากๆเลย

คืนแรกเรามาพักที่นาโกย่าก่อน เราพักที่โรงแรมที่อยู่ใจกลางเมืองเลย 
ติดกับsubwayด้วย สะดวกมากๆ







ตอนเช้าเราออกมาเดินที่ย่านช๊อปปิ้งใจกลางเมืองนาโกน่าค่ะ ที่นี่ใหญ่มากๆ 
มีทั้งของกิน แล้วก็เสื้อผ้า ถ้าเดินไปอีกนิดนึงก็จะมีเหมือนตลาดนัดอยู่ใกล้ๆกับวัดค่ะ 



นี่คือสถานีนาโกย่าค่า เรานั่งรถไฟจากสถานีนี้ไปที่เมืองทาคายาม่า 
รถไฟนี้เป็นรถไฟแบบ wide view ราคาก็จะสูงกว่าปกติ แล้วก็ต้องจองก่อนด้วย 
แต่วิวข้างทางสวยจริงค่ะ แนะนำเลยค่า




 นี่ก็คือภาพบรรยากาศของเมืองทาคายาม่าค่าา เมืองนี้เป็นเมืองที่่เก่าแก่มากๆ ไม่ค่อยมีสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่และไม่มีตึกสูงๆเลย เป็นเมืองที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไว้ แล้วก็เป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขา ทำให้มีอากาศค่อนข้างเย็นค่ะ

ในตัวเมืองของที่นี่ก็จะมีของกินมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นดังโงะ หรือ เซมเบ้ แต่ของที่ขึ้นชื่อสุดๆของที่นี่คือ เนื้อฮิดะ หรือวัวดำนั่นเอง ซึ่งจะมีแค่ในภูมิภาคนี้เท่านั้นนะ


ที่เมืองนี้มีตลาดตอนเช้าที่ขายของเยอะมากเลยค่า มีทั้งของกิน ของสด แล้วก็ชองฝากเยอะมาก
ซึ่่งตลาดนี้ก็จะจัดอยู่ที่ริมแม่น้ำในเมืองค่ะ



นี่ก็จะเป็นบ้านเก่าที่เป็นมรดกโลก ซึ่งเค้าอนุรักษ์ แล้วก็เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมภายในบ้านได้ค่า
ภาพข้างบนนี้ก็จะเป็นในตัวบ้านค่ะ 



ที่นี่เป็นศ่าลเจ้าใหญ่ในเมืองนี้ และที่นี่ก็ยังเป็นที่จัดเก็บรถลากที่ใช้ในงานพิธีบูชาเทพเจ้าประจำปีของเมืองนี้ด้วยค่ะ ซึ่งรถที่เห็นบนภาพข้างบนนี้คือรถๆที่ใช้จริงๆ เวลาที่จะต้องใช้ก็จะต้องเอาออกจากที่นี่ไปค่ะ





มาต่อกันที่่ตลาดเลยค่า ตลาดนี้จะเปิดแค่ตอนเย็นๆถึงกลางคืนเท่านั้น! ที่นี่ก็จะมีร้านเยอะมากกก ทั้งร้านอาหาร ร้านขายขนม ร้านขายเครื่องเซรามิก สาเกก็มีนะ55555



วันต่อไป้เราก็นั่งรถไปที่เจแปนแอลป์ค่ะ วันนั้นหนาวมากๆ อุณหภูมิติดลบ พอออกจากโรงแรมมาก็เห็นหิมะเต็มพื้นไปหมดเลย ตื่นเต้นมาก5555 ระหว่างทางที่นั่งรถไปก็มีแต่หิมะ



เราต้องนั่งcable carขึ้นไปด้านบนเพื่อดูยอดเขาค่ ซึ่งต้องนั่ง2ต่อ ข้างบนก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก มีที่ให้นั่งพัก



นี่ก็คือเจแปนแอลป์นั่นเองงง ข้างบนนี้หนาวมากๆๆๆๆ อุณหภูมิ-13องศา แทบจะแข็งไปทั้งตัว5555
แต่วิวข้างบนสวยมากก แนะนำให้ใส่กันหนาวไปเยอะๆเลย เตรียมแผ่นให้ความร้อนไปก็จะดีค่า

พอนั่งรถกลับมาที่เมืองแล้ว เราก็ไปเดินดูงานแสดงแสงสีที่จัดตรงสะพานใหญ่ของทาคายาม่าค่ะ บรรยากาศดีสุดๆ



วันต่อไปเราก็นั่งรถไฟไปที่เมืองโทยาม่าเพื่อต่อรถชินกันเซ็นไปที่เมืองคานาซาว่า
วิวรอบๆมีแต่หิมะทั้งนั้นเลย


เรามาถงที่สถานีคานาซาว่าแล้วค่าา สถานนีนี้นับว่าสวยมากๆ 

พอมาถึงที่เมืองคานาซาว่าแล้ว เราก็ไปเที่ยวที่ ปราสาทคานาซาว่าต่อเลย มีรถบัสสำหรับไปที่นี่โดยเฉพาะจากสถานี ที่นี่มีพื้นที่ให้เดินเยอะมากๆ รอบๆปารสาทก็จะมีสวนให้เดินเที่ยวชม


ตรงข้ามกับปราสาทคานาซาว่าก็คือ สวนคานซาว่าค่ะ สวนนี้มีต้นไม้ ดอกไม้เยอะมากก แล้วก็เป็นสวยที่สวยมากกก ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมต้องขึงเชือกไว้กับต้นแบบนั้น คำตอบก็คือ เพื่อให้ต้นไม้โตตามทิศทางที่เรากำหนดนั่นเอง และเป็นการขึงต้นไม้ไว้ไม่ให้ล้มด้วยค่ะ





เช้าวันต่อมา เราก็นั่งรสบัสจากคานาซาว่าไปที่ ชิรากาวาโกะ ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณ เป็นมรดกโลก ในหมู่บ้านนี้เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณและยังมีคนอาศัยอยู่ในบ้านแบบนี้ ตอนที่ไปมีหิมะตกตอนคืนก่อนไป ก็เลยทำให้บนหลังคาบ้านมีหิมะ ทำให้ที่นี่ดูสวยมากขึ้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จบแล้วค่า ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ คนที่สนอยากไปเที่ยวแบบนี้ก็สามารถเอาข้อมูลจากในนี้ไปแพลนทริปของตัวเองได้นะคะ ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า ^ ^
















































วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ 7ข้อ ของการดูอนิเมะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพูดถึง"ประโยชน์ของการดูอนิเมะ"กัน



หลายๆคนคงจะคิดว่าการดูอนิเมะเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ทำให้เสียเวลา และไม่มีประโยชน์ สรุปแล้วการดูอนิเมะไม่มีประโยชน์เลยเหรอ? ไม่จริงหรอกค่ะ เพราะทุกอย่างต้องมีทั้งประโยชน์และโทษ เพราะฉะนั้นการดูอนิเมะก็มีประโยชน์เช่นกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง~

1.ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน

เราเชื่อว่าทุกคนดุการ์ตูนก็เพราะว่ามันให้ความบันเทิง และรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเรื่อง กินทามะ ก็เป็นอนิเมะเรื่องหนึ่งที่ตลกมากๆๆๆ ทำให้เวลาดูแล้วเราจะรู้สึกสนุกค่ะ

2.ทำให้เกิดจินตนาการ

อนิเมะทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ แต่การจินตนาการนั้นก็ต้องมีขอบเขตด้วยนะ อนิเมะบางเรื่องอย่างchuunibyou demo koi ga shitai ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มคนที่คิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษ อันนี้ก็เกินความจริงไป เราก็ต้องแยกแยะบ้างนะ

3.ได้เรียนรู้ภาษา

ที่แน่ๆคือได้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นหลายคำเลย ยิ่งถ้าเราดูซับเป็นภาษาอังกฤษเราก็จะได้ภาษาอังกฤษด้วย แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย บางคนเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะไม่อยากรอซับ หรือไม่ก็เรื่องนั้นโดนLCในไทยแล้ว อยากดูแบบสดหรือRAW ซึ่งจะทำให้เราดูรู้เรื่อง และทำให้รู้และเข้าใจภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นอีกด้วย

4.ได้ทำความรู้จักกับผู้อื่นมากขึ้น















จากประสบการณ์ของเรา ปกติเราจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่พอใครคุยเรื่องอนิเมะเท่านั้นแหละ... คุยกันแบบนำ้ไหลไฟดับ หลายครั้งที่เราสนิทกับเพื่อนได้เราเพราะดูอนิเมะเหมือนกัน คนที่ชอบอะไรเหมือนกันก็น่าจะเข้าใจกันได้ดี
กว่าเนอะ

5.แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพ



















อนิเมะส่วนใหญ่จะสอนเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนพ้อง โดยแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี การทำงานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จ ในอนิเมะกีฬาส่นใหญ่ ก็จะสอนว่า เราไม่สามารถทำอะไรสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องร่วมมือกันจึงจะประสบความสำเร็จ

5.ได้ข้อคิด
















อนิเมะแทบทุกเรื่องจะให้ข้อคิดว่า คนดี ย่อมชนะ คนเลว หรือ ความดี ย่อมชนะ ความชั่ว เช่น เรื่องcode geass ในตอนสุดท้าย ลูลุซที่เป็นคนเลวก็ถูกซุซาคุฆ่าตาย เป็นต้น

6.เรียนรู้วัฒนธรรม และประเพณี



















ในอนิเมะก็จะมีการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ เช่น การแต่งกาย ภาษา อาหาร รวมถึงการละเล่นต่างๆ และประเพณีต่างๆ เช่น การไปงานเทศกาล เป็นต้น ซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น และทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆอีกด้วย

7.เป็นแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆ














เราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเล่นกีฬาเลย โดยเฉพาะวอลเล่ย์บอล แต่พอเราดูเรื่องhaikyuuก็ทำให้เราสนใจกีฬาวอลเล่ย์บอลมากขึ้น แล้วก็ทำให้เราอยากเล่น อีกเรื่องนึงที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราก็คือ โอตาคุน่องเหล็ก ตอนนี้เราอยากได้จักรยานเสือหมอบมาก เพราะ เห็นในเรื่องนี้เค้าขี่กันแล้วรู้สึกอยากขี่จักรยานมากๆ แต่พวกเราก็ต้องเลียนแบบในสิ่งที่ดีนะ พฤติกรรมต่างๆในอนิเมะที่ไม่ดี เราก็ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างนะ

การดูอนิเมะก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าเราดูให้เหมาะสมกับวัย และดูแต่พอดี ก็จะมีแต่ผลดีเกิดขึ้นกับเราแน่นอน~

ขอบคุณค่ะ^ ^